หลังจากที่นักพนันได้เคล็ดลับดี ๆ ทั้ง 5 วิธีการไปประยุกต์ใช้ให้เหมาะกับสถานการณ์ในเกม โดยนักพนันต้องรู้จักกับการวางเดิมพัน รูเล็ตออนไลน์ ให้ดีว่ามีรูปแบบใดบ้าง
รูปแบบที่ 1 แทงแบบเต็ง
เป็นการแทงเจาะจงตัวเลข นักพนันจะต้องเลือกจากตัวเลขทั้งหมด 37 ตัว ตั้งแต่ 00 -36 หรือ 36 ตัว ตั้งแต่ 0-36 จะแทงทีละตัว หรือจะแทงทีละหลาย ๆ เลขก็ได้ มีอัตราการจ่าย 35 เท่า
รูปแบบที่ 2 แทงแบบแดง-ดำ
เป็นการแทงเจาะจงสี โดยจะต้องเลือกสีดำและสีแดง ซึ่งแต่ละสีก็จะมีตัวเลขกำกับไว้แตกต่างกัน มีจำนวนตัวเลขเท่ากัน สีละ 18 เลข ดังนี้
สีแดง มีเลข 1, 3, 5, 7, 9, 12, 14, 16, 18, 19, 21, 23, 25, 27, 30, 32, 34, 36
สีดำ มีเลข 2, 4, 6, 8, 10, 11, 13, 15, 17, 20, 22, 24, 26, 28, 29, 31, 33, 35
หากทายสีที่วางเดิมพันไว้ถูกก็ถือว่าชนะ มีอัตราการจ่าย 1 เท่า
รูปแบบที่ 3 แทงแบบสูง-ต่ำ
เป็นการแทงระหว่างสูงกับต่ำ โดยจะต้องเลือกตัวเลขที่อยู่ในค่าสูง-ต่ำ ฝั่งละ 18 หมายเลขเท่ากัน ดังนี้
ต่ำ มีเลข 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9, 10, 11, 12, 13, 14, 15, 16, 17, 18
สูง มีเลข 19, 20, 21, 22, 23, 24, 25, 26, 27, 28, 29, 30, 31, 32, 33, 34, 35, 36
หากทายสูง-ต่ำที่วางเดิมพันไว้ถูกก็ถือว่าชนะ มีอัตราการจ่าย 1 เท่า
รูปแบบที่ 4 แทงแบบคู่-คี่
เป็นการแทงระหว่างเลขคู่กับเลขคี่ โดยจะต้องเลือกตัวเลขที่อยู่ในค่าเลขคู่-คี่ ฝั่งละ 18 หมายเลขเท่ากัน ดังนี้
เลขคู่ มีเลข 2, 4, 6, 8, 10, 12, 14, 16, 18, 20, 22, 24, 26, 28, 30, 32, 34, 36
เลขคี่ มีเลข 1, 3, 5, 7, 9, 11, 13, 15, 17, 19, 21, 23, 25, 27, 29, 31, 33, 35
หากทายคู่-คี่ที่วางเดิมพันไว้ถูกก็ถือว่าชนะ มีอัตราการจ่าย 1 เท่า
รูปแบบที่ 5 แทงแบบเต็งโซน
เป็นการแทงเจาะจงโซน แบ่งเป็น 3 โซน โซนละ 12 ตัวเลขเท่ากัน โดยจะต้องเลือกตัวเลขที่อยู่ในแต่ละโซน ดังนี้
โซนที่ 1 มีเลข 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9, 10, 11, 12
โซนที่ 2 มีเลข 13, 14, 15, 16, 17, 18, 19, 20, 21, 22, 23, 24
โซนที่ 3 มีเลข 25, 26, 27, 28, 29, 30, 31, 32, 33, 34, 35, 36
หากทายโซนที่วางเดิมพันไว้ถูกก็ถือว่าชนะ มีอัตราการจ่าย 2 เท่า
รูปแบบที่ 6 แทงแบบเต็งแถว
เป็นการแทงเจาะจงแถว แบ่งเป็น 3 แถว แถวละ 12 ตัวเลขเท่ากัน โดยจะต้องเลือกตัวเลขที่อยู่ในแต่ละแถว ดังนี้
แถวที่ 1 มีเลข 1, 4, 7, 10, 13, 16, 19, 22, 25, 28, 31, 34
แถวที่ 2 มีเลข 2, 5, 8, 11, 14, 17, 20, 23, 26, 29, 32
แถวที่ 3 มีเลข 3, 6, 9, 12, 15, 18, 21, 24, 27, 30, 33, 36
หากทายแถวที่วางเดิมพันไว้ถูกก็ถือว่าชนะ มีอัตราการจ่าย 2 เท่า
รูปแบบที่ 7 แทงค่อม 2 เลข
เป็นการแทง 2 ตัวเลขที่อยู่ติดกัน โดยจะต้องเอาชิปไปวางบนเส้นระหว่าง 2 ตัวที่อยู่ใกล้กัน เช่น 21 กับ 24 , 3 กับ 32 และ 33 กับ 36 เป็นต้น หากทายค่อม 2 เลขที่วางเดิมพันไว้ถูกก็ถือว่าชนะ มีอัตราการจ่าย 17 เท่า
รูปแบบที่ 8 แทงค่อม 3 เลข
เป็นการแทง 3 ตัวเลขที่เรียงกันจากด้านล่างไปด้านบน โดยจะต้องนำชิปไปวางบนเส้นด้านล่างของแถว เช่น 10, 11, 12 เป็นต้น หากทายค่อม 3 เลขที่วางเดิมพันไว้ถูกก็ถือว่าชนะ มีอัตราการจ่าย 11 เท่า
รูปแบบที่ 9 แทงค่อม 4 เลข
เป็นการแทง 4 ตัวเลขที่อยู่ใกล้กัน โดยจะต้องนำชิปไปวางบนเส้นตัดของเลข 4 ตัวที่อยู่ใกล้กัน เช่น 1, 15, 17, 19 เป็นต้น หากทายค่อม 4 เลขที่วางเดิมพันไว้ถูกก็ถือว่าชนะ มีอัตราการจ่าย 8 เท่า
รูปแบบที่ 10 แทงค่อม 6 เลข
เป็นการแทง 6 ตัวเลขที่เรียงกัน 2 แถวจากด้านล่างไปด้านบน โดยจะต้องนำชิปไปวางระหว่างเส้นด้านล่างแถง เช่น 31, 32, 33, 34, 35, 36 เป็นต้น หากทายค่อม 6 เลขที่วางเดิมพันไว้ถูกก็ถือว่าชนะ มีอัตราการจ่าย 5 เท่า
